วันเสาร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2552

คำนำ : ราตรี

ยามยังเยาว์แม่มักเอ่ยถ้อยความ “จันทร์เอ๋ย จันทร์เจ้า ขอข้าว ขอแกง ขอแหวนทองแดง...” ในภาษาอีสานให้ฟังบ่อยจนคุ้นหู กระทั่งปักใจเชื่อว่าเจ้าลูกกลมดิกเหลืองทองส่องสว่างบนฟ้าคือสิ่งแสนวิเศษ ขออะไรก็ได้...คราเห็น สิ่งปรารถนามักผุดพรายคำขอขึ้นในใจ อาทิเช่น ขนม ของเล่น สตางค์ ได้บ้างก็ดีใจ ไม่ได้บ้างก็ไม่ได้นึกโกรธพระจันทร์
พอโตขึ้นแม้จะรู้ว่าสิ่งที่แม่พร่ำบอกนั้นเป็นเพียงการกล่อมลูกนอน หรือเพื่อความบันเทิงเริงใจของลูกก็ตาม แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมหลงรักดวงจันทร์น้อยลง ทุกวันนี้เวลามองจันทร์เจ้าก็ยังคงขอในสิ่งที่ปรารนาเสมอ อาทิเช่น ขอให้ได้เป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จ ...แม้จะยังไม่ได้ตามหวัง ก็ยังคงรู้สึกเช่นเคย ไม่ได้นึกโกรธ และคล้ายได้ยินเสียงพระจันทร์...อดทน และพยายามกว่านี้
ราตรี เด็กหญิงตัวละครหลักในนวนิยายเรื่องนี้ ปรากฏขึ้นในค่ำคืนวันหนึ่งที่ผมแหงนหน้ามองพระจันทร์ ขณะกำลังขอพรให้พ่อกับแม่มีความสุข ตรงที่ที่กระต่ายดวงจันทร์เคยอยู่ เด็กหญิงหัวโล้นตัวดำมะเมี่ยมกำลังยิ้มแฉ่ง ทว่าในดวงตาของเธอมีความขุ่นหมองบางอย่างลึกเล้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น